เป็นญาณที่ใช้ ในการตรวจดูว่า คน หรือ สัตว์ นี้ ก่อนเกิดมาจากภพภูมิไหน และ คน หรือ สัตว์ที่ตายไปแล้ว ไปเกิดในภพภูมิไหน ถ้าฉลาดขึ้น ก็ใช้ ยถากัมมุตาญาณ มาช่วยในการตรวจเพื่อให้รู้ผลของกรรมด้วยว่าเขาทำกรรมอะไร จึงมาเกิด และ ไปเกิดในภพภูมินั้นๆ
ญาณต่างๆนี้ สามารถที่จะใช้ในคราวเดียวกันได้ทีละ หลายๆญาณ เนื่องจากญาณทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากทิพย์จักขุญาณเหมือนกัน
สมมุติว่า เราตรวจดูเด็กคนหนึ่งที่มาเกิดใหม่ อาจจะเห็นได้ว่า เด็กคน นี้ มาจาก เทวดา นางฟ้า บ้าง พรหม บ้าง สัตว์นรก เปรต อสุรกายบ้าง หรือ ตรวจดูคนที่ตายไป ก็จะพบในลักษณะเช่นเดียวกัน ว่าเขาไปเกิดที่ภพภูมิไหน บางทีเราอาจพบ คนที่เคยรวย เคยยิ่งใหญ่ มาเกิดเป็นคนจนเข็ญใจ ก็ให้ตรวจดูด้วยว่า เป็นเพราะกรรมอันใด สัตว์ มาเกิดเป็น มนุษย์ ได้เพราะกรรมอันใด อันนี้จะช่วยให้เรา รู้แจ้งเห็นจริงในการเวียนว่ายตายเกิด เห็นความน่ากลัวของภพภูมิที่ไม่ดี ว่าน่ากลัวเพียงใด เห็นความสุข ของ สวรรค์ พรหม เห็นความไม่แน่นอนของ เทวดา และพรหม ว่ามีสุขไม่เที่ยงแท้ เมื่อหมดบุญวาสนาบารมี ก็ต้องกลับมาวนเวียนพบกับความทุกข์อีกได้
เราจะเห็นว่าการเวียนว่ายตายเกิดนี้ ไม่มีวันสิ้นสุด ในไม่ช้า เราก็จะมองเห็น ทุกข์ เป็นการมองเห็นตามอริยสัจ เราจะมีความเบื่อหน่่ายในการเวียนตายเวียนเกิด จิตเกิดปัญญาเป็นวิปัสนาญาณ
ถ้าเราปฏิบัติดังนี้ได้ทุกๆวัน ทุกเวลา ย่อมจะมีผลดีกับเราอย่างที่สุด จิตย่อมหลุดพ้นไม่แสวงหาการเกิดอีกต่อไป เข้าสู่มรรคผลนิพานเป็นที่ไป ตามแบบที่พระพุทธเจ้าสอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น