เจโตปริยญาณ
ท่านนักปฏิบัติทั้งหลาย วันนี้เป็นวันที่ 2 ม.ค. 2558 สำหรับวันนี้ เราจะมาคุยกันถึงเรื่อง เจโตปริยญาณ สำหรับญาณนี้ คือ ญาณที่ทำให้เราสามารถรู้จิตใจคน รู้อารมณ์จิต ของคน และสัตว์ ว่าขณะนี้ มีจิตคิดอย่างไร มีสุข หรือทุกข์ อย่างไร จิตของเขาเป็นกุศลหรือ อกุศล เป็นจิตผู้ทรงคุณอะไร และ ใช้สำหรับ รู้จิตเราเองได้ด้วยว่า ขณะนี้มีกิเลสอะไรเกิดขึ้นในจิตใจเรา หรือ ไม่มีกิเลสอะไรเกิดขึ้น
ส่วนการที่จะสามารถล่วงรู้จิตใจของผู้ปฏิบัติธรรมอื่นๆ ว่า มีจิตอยู่ในระดับใด ได้มรรคผลอะไร เราก็ต้องเป็นผู้มีจิตอยู่ในระดับเดียวกัน หรือ สูงกว่า หากเรามีระดับฌาณต่ำกว่า จะ ไม่สามารถรู้จิตของผู้มีระดับฌาณสูงกว่าได้ พระท่านว่า นี่เป็นกฏตายตัว ดังนั้น เมื่อเราตรวจแล้วไม่อาจทราบว่าท่านผู้นั้น มีจิตคิดอย่างไร หรือระดับจิตอยู่ระดับไหน ก็ให้คิดไว้ก่อนว่า ท่านผู้นี้ ต้องมีระดับจิตที่สูงกว่าเรา ก็จงอย่าพยากรณ์ระดับจิตท่าน การพยากรณ์ผู้ทรงคุณสูงกว่า ย่อมจะผิดจากความเป็นจริง มีโทษหนักในทางปฏิบัติ อาจทำให้เราปฏิบัติกรรมฐานอย่างไร้ผล ทำกรรมฐานเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นไม่ก้าวหน้า พระท่านว่า หากเรากล้าไปพยากรณ์ผู้ทรงคุณธรรมระดับสูงกว่า ถ้าท่านเป็นระดับอริยะ เป็นกรรมหนักมาก ในโทษที่อาจเอื้อมยกตนเหมือนพระอริยะ ควรละเว้นให้เด็ดขาด
สำหรับวิธีฝึกญาณนี้ ให้ไปดูที่ วิธีฝึก อาโลกกสิน เพื่อให้ได้ทิพย์จักขุญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น